สำคัญ! กรุณาอ่านสิ่งนี้ก่อนเริ่ม
- สามารถใช้งานได้เฉพาะอุปกรณ์ Bluetooth ที่รองรับ LE Audio* (มาตรฐานการสื่อสารเสียงสำหรับเทคโนโลยี Bluetooth) เท่านั้น หากอุปกรณ์ Bluetooth ของคุณไม่รองรับ LE Audio ให้เชื่อมต่อด้วยอุปกรณ์รับส่งสัญญาณ USB ที่ให้มา สำหรับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่รองรับ โปรดดูได้จากเว็บไซต์สนับสนุน
วางอุปกรณ์ของคุณให้อยู่ห่างจากสมาร์ทโฟน/อุปกรณ์ Android ไม่เกิน 1 เมตร
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าชุดหูฟังชาร์จแบตเตอรี่มาเพียงพอแล้ว
- มีคู่มือการใช้งานสมาร์ทโฟน Android อยู่ใกล้มือ
- หากไม่สามารถจับคู่ได้ภายใน 5 นาที โหมดการจับคู่จะถูกยกเลิก ในกรณีนี้ ให้เริ่มทำขั้นตอนใหม่ตั้งแต่ขั้นตอนที่ 1
- เมื่ออุปกรณ์ Bluetooth ถูกจับคู่กันแล้ว จะไม่จำเป็นต้องจับคู่ใหม่อีก ยกเว้นในกรณีต่อไปนี้:
- ข้อมูลการจับคู่ถูกลบหลังจากการซ่อมแซม เป็นต้น
- เมื่อมีการจับคู่อุปกรณ์เครื่องที่ 6
ชุดหูฟังสามารถจับคู่ได้สูงสุด 5 อุปกรณ์ หากมีการจับคู่อุปกรณ์ใหม่หลังจากครบ 5 อุปกรณ์แล้ว ข้อมูลการลงทะเบียนของอุปกรณ์ที่จับคู่ซึ่งมีวันที่เชื่อมต่อนานที่สุดจะถูกเขียนทับด้วยข้อมูลของอุปกรณ์ใหม่ - เมื่อข้อมูลการจับคู่ของชุดหูฟรถูกลบออกจากอุปกรณ์ Bluetooth ที่เชื่อมต่ออยู่
- เมื่อตั้งค่าชุดหูฟังใหม่ (Initialize)
ข้อมูลการจับคู่ทั้งหมดจะถูกลบออก ในกรณีนี้ ให้ลบข้อมูลการจับคู่ของชุดหูฟังจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่แล้วทำการจับคู่ใหม่อีกครั้ง
- ชุดหูฟังสามารถจับคู่กับอุปกรณ์หลายเครื่องได้ แต่สามารถเล่นเพลงจากอุปกรณ์ที่จับคู่เพียงเครื่องเดียวในแต่ละครั้ง
- หากไม่มีประวัติการจับคู่ระหว่างชุดหูฟังและอุปกรณ์ Bluetooth ที่เชื่อมต่ออยู่ แม้คุณพยายามเปลี่ยนโหมดบนชุดหูฟัง ก็ไม่สามารถสลับจากการเชื่อมต่อ Bluetooth ไปยังการเชื่อมต่อ USB transceiver ได้
- หากอุปกรณ์ Bluetooth ที่เชื่อมต่อครั้งล่าสุดวางใกล้ชุดหูฟัง ชุดหูฟังอาจเชื่อมต่อกับอุปกรณ์นั้นโดยอัตโนมัติเมื่อคุณเปิดชุดหูฟัง และอาจไม่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นได้
หากเกิดเหตุการณ์นี้ ให้ยกเลิกการเชื่อมต่อบนอุปกรณ์ Bluetooth ที่เชื่อมต่อครั้งล่าสุด หรือปิดฟังก์ชัน Bluetooth บนอุปกรณ์นั้น - อัปเดตอุปกรณ์เสียง Bluetooth ของคุณเป็นเฟิร์มแวร์เวอร์ชันล่าสุด หากต้องการค้นหาเฟิร์มแวร์ของอุปกรณ์เสียง Bluetooth ของคุณ โปรดไปที่ส่วน Firmware & Software ของหน้าสนับสนุนรุ่นของคุณ หากไม่มีการอัปเดตเฟิร์มแวร์ในส่วน Firmware & Software หมายความว่า Sony ยังไม่ได้ปล่อยเฟิร์มแวร์เวอร์ชันใหม่ในขณะนี้
Example for WF-1000XM3
ขั้นตอนการจับคู่
ขั้นตอนที่ 1: นำชุดหูฟังเข้าสู่โหมดการจับคู่
- เมื่อคุณจับคู่ชุดหูฟังกับอุปกรณ์เป็นครั้งแรก หรือหลังจากการตั้งค่าใหม่ ชุดหูฟังจะเข้าสู่โหมดการจับคู่โดยอัตโนมัติเมื่อคุณสวมใส่ คุณจะได้ยินเสียงแจ้งเตือนพร้อมคำแนะนำด้วยเสียงว่า “Pairing” จากทั้งสองหน่วย
- สำหรับการจับคู่ชุดหูฟังกับอุปกรณ์เครื่องที่สอง:
วางชุดหูฟังลงในเคสชาร์จ
ปล่อยฝาเคสชาร์จไว้เปิด
เมื่อฝาเคสชาร์จเปิดอยู่ ให้กดปุ่มจับคู่ที่ด้านหลังของเคสชาร์จค้างไว้ประมาณ 5 วินาทีหรือมากกว่า.
หมายเหตุ: ชุดหูฟังจะไม่เข้าสู่โหมดการจับคู่หากปิดฝาเคสชาร์จ
ไฟแสดงสถานะ (สีน้ำเงิน) บนเคสชาร์จจะกระพริบสองครั้งซ้ำ ๆ และชุดหูฟังจะเข้าสู่โหมดการจับคู่
คุณสามารถนำชุดหูฟังออกจากเคสชาร์จหลังจากเข้าสู่โหมดการจับคู่แล้วเมื่อคุณสวมชุดหูฟังทั้งสองข้าง คุณจะได้ยินเสียงแจ้งเตือนพร้อมคำแนะนำด้วยเสียงว่า “Pairing” จากทั้งสองหน่วยหูฟัง (หรือจากหน่วยหูฟังที่คุณสวมใส่อยู่) พร้อมกัน
ขั้นตอนที่ 2: ปลดล็อกหน้าจอหากถูกล็อก และค้นหาชุดหูฟังบนสมาร์ทโฟน Android
เลือก [Settings] - [Device connection] - [Bluetooth].
แตะสวิตช์เพื่อเปิดฟังก์ชัน Bluetooth
ขั้นตอนที่ 3: แตะที่ [INZONE Buds]
หากจำเป็นต้องป้อน Passkey* ให้กรอก “0000”
ชุดหูฟังและสมาร์ทโฟนจะถูกจับคู่และเชื่อมต่อกัน
เมื่อวางชุดหูฟังลงในเคสชาร์จ ไฟแสดงสถานะ (สีน้ำเงิน) บนเคสจะกระพริบ 10 ครั้ง
เมื่อคุณสวมชุดหูฟัง คุณจะได้ยินเสียงแจ้งเตือนว่าการเชื่อมต่อสำเร็จ จากทั้งสองหน่วยหูฟัง (หรือจากหน่วยหูฟังที่คุณสวมใส่อยู่) พร้อมกัน
หากยังไม่เชื่อมต่อ ให้ดูที่ “Connecting to a paired Android smartphone”.
หาก [INZONE Buds] ไม่ปรากฏบนหน้าจอสมาร์ทโฟน Android ของคุณ ให้เริ่มทำขั้นตอนใหม่ตั้งแต่ขั้นตอนที่ 3
*Passkey อาจเรียกว่า “Passcode”, “PIN code”, “PIN number” หรือ “Password”
ขั้นตอนที่ 4: บนสมาร์ทโฟน Android ให้ตรวจสอบการตั้งค่า LE Audio
แตะที่
(settings) ที่แสดงถัดจาก [INZONE Buds] ที่เชื่อมต่ออยู่
ตรวจสอบให้แน่ใจว่า [LE audio] เปิดอยู่
หากปิดอยู่ ให้แตะสวิตช์เพื่อเปิด [LE audio]
เมื่อสลับจากการเชื่อมต่อ Bluetooth ไปยังการเชื่อมต่อผ่าน USB transceiver
- สวมชุดหูฟังทั้งสองข้างเข้าหู.
- แตะค้างที่เซ็นเซอร์สัมผัสบนชุดหูฟังทั้งด้านซ้ายและขวาประมาณ 1 วินาทีเพื่อสลับไปยังโหมด USB transceiver
คุณจะได้ยินคำแนะนำด้วยเสียงว่า “USB Transceiver mode”
เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับการแก้ปัญหา
การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน Android ที่จับคู่แล้ว
ขั้นตอนที่ 1: ปลดล็อกหน้าจอสมาร์ทโฟน Android หากหน้าจอถูกล็อก
ขั้นตอนที่ 2: นำชุดหูฟังออกจากเคสชาร์จ
ชุดหูฟังจะเปิดเครื่องโดยอัตโนมัติ
ขั้นตอนที่ 3: สวมชุดหูฟังทั้งสองข้างเข้าหูและสลับโหมด
สวมชุดหูฟังทั้งสองข้างเข้าหู
คุณจะได้ยินคำแนะนำด้วยเสียงว่า “Bluetooth mode” หรือ “USB Transceiver mode”เมื่อชุดหูฟังอยู่ในโหมด USB transceiver ให้สวมชุดหูฟังทั้งสองข้างแล้วเปลี่ยนโหมดของชุดหูฟังไปยังโหมด Bluetooth โดยแตะค้างที่เซ็นเซอร์สัมผัสบนชุดหูฟังทั้งด้านซ้ายและขวาประมาณ 1 วินาที
คุณจะได้ยินคำแนะนำด้วยเสียงว่า “Bluetooth mode”
เมื่อชุดหูฟังเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อครั้งล่าสุดโดยอัตโนมัติ คุณจะได้ยินเสียงแจ้งเตือนว่าการเชื่อมต่อสำเร็จจากทั้งสองหน่วยหูฟังพร้อมกัน เมื่อคุณสวมชุดหูฟังเพียงข้างเดียว คุณจะได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากหน่วยหูฟังที่คุณสวมอยู่
ตรวจสอบสถานะการเชื่อมต่อบนสมาร์ทโฟน Android หากยังไม่เชื่อมต่อ ให้ดำเนินการต่อไปที่ขั้นตอนที่ 4
ขั้นตอนที่ 4: แสดงอุปกรณ์ที่จับคู่กับสมาร์ทโฟน Android
เลือก [Settings] - [Device connection] - [Bluetooth].
แตะสวิตช์เพื่อเปิดฟังก์ชัน Bluetooth
ขั้นตอนที่ 5: แตะที่ [INZONE Buds]
คุณจะได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากทั้งสองหน่วยหูฟัง (หรือจากหน่วยหูฟังที่คุณสวมใส่อยู่) พร้อมกัน
การเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์, PlayStation®5 หรือสมาร์ทโฟนที่รองรับ USB Type-C ผ่าน USB transceiver
ขั้นตอนที่ 1: เลื่อนสวิตช์ของ USB transceiver ไปที่ “PC” หรือ “PS5/MOBILE” ตามอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ
ขั้นตอนที่ 2: เปิดคอมพิวเตอร์, PS5 หรือสมาร์ทโฟนที่รองรับ USB Type-C
ขั้นตอนที่ 3: เชื่อมต่อ USB transceiver เข้ากับพอร์ต USB ของคอมพิวเตอร์, PS5 หรือสมาร์ทโฟนที่รองรับ USB Type-C
หมายเหตุ:
เชื่อมต่อ USB transceiver โดยตรงกับคอมพิวเตอร์, PS5 หรือสมาร์ทโฟนที่รองรับ USB Type-C โดยไม่ผ่าน USB hub
เมื่อเชื่อมต่อ USB transceiver กับคอมพิวเตอร์ ให้เชื่อมต่อกับพอร์ต USB Type-C ของคอมพิวเตอร์โดยตรงโดยไม่ใช้ตัวแปลง USB Type-A
หากอุปกรณ์ไม่สามารถรับรู้ไมโครโฟนของชุดหูฟัง ให้ตรวจสอบว่าสวิตช์เลื่อนของ USB transceiver ถูกตั้งค่าอย่างถูกต้อง
หากชุดหูฟังไม่สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์, PS5 หรือสมาร์ทโฟนที่รองรับ USB Type-C ผ่านการเชื่อมต่อไร้สาย 2.4 GHz ให้กดปุ่มเชื่อมต่อบน USB transceiver ค้างไว้ประมาณ 5 วินาทีขึ้นไปเพื่อตั้งค่าการจับคู่
กดปุ่มเชื่อมต่อด้วยวัตถุที่ปลายเรียวและไม่หักง่าย เช่น คลิปหนีบกระดาษ
ระหว่างการโทร อาจมีเสียงรบกวนที่อีกฝ่ายได้ยิน การเชื่อมต่อ USB transceiver กับพอร์ต USB อื่นอาจช่วยปรับปรุงสถานการณ์ได้
กรุณาดูที่ FAQ นี้